พลอยเนื้ออ่อน และเกร็ดน่ารู้ของพลอยประเภทนี้

ค่าความแข็งของพลอยที่มีหลายระดับทำให้มีการแยกประเภทพลอยได้อีกหนึ่งประเภทนั่นคือ พลอยเนื้ออ่อน ซึ่งหลายคนอาจเคยได้ยินชื่อแต่ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรและแตกต่างจากพลอยทั่วไปอย่างไร วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกันค่ะ

พลอยเนื้ออ่อน (Semi-Precious Gemstones) หมายถึง พลอยทุกชนิดที่มีค่าความแข็ง (Hardness) หรือค่าความทนทานต่อการขีดข่วนให้เป็นรอย อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 7-7.5 โมห์สเกล (Moh’s Scale) และพลอยที่จัดอยู่ในกลุ่มพลอยเนื้ออ่อน ก็ได้แก่กลุ่มแร่ควอตซ์ (Quartz) เช่น อะเวนจูรีนควอตซ์ (Aventurine Quartz), ควอตซ์สีควันไฟ (Smoky Quartz)

พลอยกลุ่มนี้ เป็นอัญมณีที่มีผลึกภายในโปร่งใส มีแสงแวววาวแบบแก้ว  และเปลี่ยนสีได้ง่ายเมื่ออยู่ในอุณหภูมิความร้อนสูง ดังนั้น จึงมีการนำแร่ควอตซ์หลายชนิดมาเผาไฟเพื่อทำให้เกิดอัญมณีชนิดใหม่ เช่น เมื่อนำ อเมทิสต์ (Amethyst) ไปเผาไฟด้วยความร้อนสูง จะทำให้เกิดอัญมณีสีเหลืองที่เรียกว่า ซิทริน (Citrine) เป็นต้น

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า พลอยเนื้ออ่อนเป็นพลอยที่มีคุณภาพด้อยกว่าพลอยเนื้อแข็ง บ้างก็มองว่าไม่มีคุณภาพและ ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับ แต่ความจริงคือพลอยทุกชนิดเป็นพลอยที่มีค่าในตัวเองต่างกันไป ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งของพลอย แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ มาประกอบอีกหลายอย่าง และพลอยเนื้ออ่อนบางประเภทก็เป็นพลอยหายาก มีมูลค่าสูงกว่าพลอยเนื้อแข็งหลายชนิดด้วย

เพราะความทนทานต่อการขีดข่วนเป็นรอยของพลอยเนื้ออ่อนมีน้อยกว่าพลอยเนื้อแข็ง โอกาสที่จะเกิดความแตกหักเสียหายก็มีมากกว่า ดังนั้นหากใครที่สนใจจะนำพลอยเนื้ออ่อนไปใช้ทำเครื่องประดับ หรือมีเครื่องประดับจากพลอยเนื้ออ่อนในครอบครอง ก็ต้องดูแลรักษาและระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

สำหรับพลอยเนื้ออ่อนที่พบได้ทั่วไปและนิยมนำไปใช้ทำเป็นเครื่องประดับ ก็ได้แก่ เทอร์ควอยซ์ (Turquoise), โอปอล (Opal), ทัวร์มาลีน  (Tourmaline) ,มูนสโตน (Moonstone) เป็นต้น โดยมีความเชื่อกันว่า พลอยในกลุ่มที่ได้กล่าวถึงไปนี้มีพลังที่ช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของสุขภาพแข็งแรงด้วย