กำไลงาช้าง และความเชื่อเรื่องโชคลาง

การนำวัสดุจากธรรมชาติทั้งจากพืชและสัตว์มาทำเครื่องประดับเป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ และ กำไลงาช้าง ก็เป็นหนึ่งในนั้น และในหัวข้อนี้เราก็จะนำเสนอเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับกำไลงาช้าง ดังต่อไปนี้ค่ะ

ในอดีตตั้งแต่สมัยทวารวดี มีการประดิษฐ์เครื่องประดับรวมทั้งกำไลจากอวัยวะของสัตว์ เช่น เขาสัตว์ และงาช้าง ซึ่งมีความเชื่อเกี่ยวโชคลางตั้งแต่ยุคนั้นว่า งาช้างคือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์จากสีขาวและมีความเป็นมงคล ผู้ที่ได้ครอบครองงาช้างในรูปแบบใดก็ตามจะมีพลังอำนาจเพิ่มขึ้น ช่วยให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรค และมีชัยชนะเหนือภยันตรายรวมทั้งศัตรูทั้งปวง  สังเกตได้จากการนำงาช้างไปเป็นเครื่องประดับโต๊ะหมู่บูชา และนำไปแกะสลักทำเป็นเครื่องประดับ หรือเครื่องรางของขลัง เพื่อสวมใส่หรือพกไว้ติดตัว กำไลงาช้าง ก็เช่นกัน

กำไลงาช้าง

หลักฐานที่ขุดค้นพบทางโบราณคดีทำให้ได้ทราบว่ามีการนำงาช้างมาทำเป็นกำไลข้อมือเพื่อสวมใส่เป็นเครื่องประดับตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เลยทีเดียว และก็เรียกศิลปะในยุคนั้นว่า ศิลปะทวารวดี ซึ่งมักจะขุดค้นพบในจังหวัดทางภาคเหนือและภาคอิสานของไทย ทำให้กำไลงาช้าง กลายเป็นเครื่องประดับโบราณมูลค่าสูงและเป็นของที่นักสะสมจำนวนมากต้องการเป็นเจ้าของ

ส่งผลให้เครื่องประดับโบราณที่ทำจากงาช้างที่เป็นมรดกตกทอดกันมาในหลายๆยุคสมัย กลายเป็นของหายากและหลายๆคนก็ต้องการเพราะความเชื่อเรื่องโชคลาง ความเป็นสิริมงคลมากกว่าเรื่องของความสวยงาม แต่ในขณะเกียวกันกำไลงาช้างที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องประดับในสมัยก่อนก็มีหลายชิ้นที่ทำขึ้นจากฝีมือช่างที่ประณีต งดงาม เช่น มีการฉลุลวดลายพร้อมทั้งลงยา เป็นต้น

ปัจจุบันเครื่องประดับจากงาช้างรวมทั้ง กำไลงาช้าง มีกฎหมายคุ้มครองอย่างชัดเจน และการครอบครองเป็นเจ้าของก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมายสำหรับประชาชนทั่วไป มีรายละเอียดว่า ผู้ที่มีงาช้าง ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้างไว้ในครอบครอง เช่น สร้อยคอ กำไล แหวน เครื่องรางของขลัง หรือเครื่องประดับอะไรก็ตาม ที่ทำขึ้นจากงาช้าง จะต้องไปแจ้งการครอบครองต่อเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อทำการออกใบเอกสารการครอบครองที่ถูกต้อง

กำไลงาช้าง และความเชื่อเรื่องโชคลาง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *